วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สัวต์น้ำ



สัตว์น้ำต่างถิ่น (Alien Aquatic Species)

สัตว์นํ้าแต่ละชนิดมีถิ่นอาศัยที่มีความเฉพาะตัวในด้านการกระจายพันธุทางภูมิศาสตร์ ซึ่งการแพร่กระจายของมันจะขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร สภาพภูมิประเทศ และสิ่งที่อยู่แวดล้อมต่างๆ ที่ได้ปรับตัวให้เหมาะสมแล้ว ซึ่งเวลาในการปรับตัวอาจจะใช้เวลานานนับพันปีขึ้นไป แต่เมื่อไรที่มีการนำเอาสัตว์ชนิดต่างๆ ออกไปจากที่อยู่อาศัยเดิมของมัน และนำไปปล่อยลงสู่แหล่งนํ้าอื่นๆ ที่ไม่เคยมีสัตว์ชนิดนั้นๆ อาศัยอยู่มาก่อน ตัวสัตว์นํ้าก็จะเป็นสัตว์ต่างถิ่น ซึ่งอาจจะมีผลกับการเป็นอยู่ของตัวมันเองเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ผิดไปจากเดิม หรืออาจมีผลกับแหล่งนํ้าหรือสัตว์เดิมที่อาศัยอยู่ในแหล่งนํ้านั้นได้ แนวความคิดในการนำเข้าปลาต่างถิ่นมาเลี้ยงเพื่อเพิ่มผลผลิตอาหารและรายได้ของประชากรเริ่มเป็นที่นิยมปฏิบติกันมาไม่น้อยกว่า 50 ปี แต่โดยความเป็นจริงแล้ว การเคลื่อนย้ายปลาจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งมีมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว โดยพระชาวยุโรปได้นำปลาไน และปลา redfin perch ไปเลี้ยงในหลายประเทศทั่วทวีปยุโรป ต่อมาเมื่อการคมนาคมและขนล่งสะดวกขึ้น การเคลื่อนย้ายปลาต่างถิ่นไปยังที่ต่างๆ ทั่วโลกก็เป็นไป อย่างกว้างขวางและแพร่หลายมากยิ่งขึ้น





ประเทศไทยมีการนำเอาสัตว์ต่างถิ่นเข้ามาในประเทศเป็นเวลานานแล้ว โดยมีจุดประสงค์ที่นำเข้ามาในประเทศไทย คือ เพื่อนำมาใช้พาะเลี้ยงเป็นอาหารและสัตว์นํ้าสวยงาม สัตว์น้ำต่างถิ่นที่ถูกนำเข้ามาใน ประเทศไทยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ


1.สัตว์นํ้านำเข้า (Exotic หรือ Imported) ส่วนมากจะเป็นพวกที่นำเข้ามาใช้ประโยชนIนด้านการเพาะเลี้ยงเพื่อเป็นอาหารและธุรกิจปลาสวยงาม โดยเริ่มแรกมีการนำเข้ามาจากประเทศจีน เป็นพวกปลาไนและ ปลาในกลุ่มปลาจีน จากนั้นก็มีการนำเข้ามาจากประเทศแอฟริกา เช่น พวกปลาหมอเทศทั้งหลาย ซึ่งการนำเข้ามานี้อาจนำเข้ามาโดยตรง หรือนำเข้าผ่านประเทศเพื่อนบ้านก่อนแล้วจึงนำเข้าต่อมายังประเทศไทยของเรา ปัจจุบันมีการนำเข้าพวกปลาหมอสี ปลาหางนกยูงและปลาหัวตะกั่ว เพื่อใช้ในวงการปลาสวยงามเป็นจำนวนมาก




2.สัตว์น้ำต่างถิ่นที่พบอาศัยในธรรมชาติ (Alien species) คือ สัตว์นั้าที่ถูกนำเข้ามา หรือเป็นสัตว์นั้าที่ไม่เคยมีอยู่ในแหล่งนี้าธรรมชาตินั้นมาก่อนและถูกมนุษย์นำมาปล่อย หรือหลุดลงไปในแหล่งนี้าธรรมชาติ เหล่านั้นอาจจะโดยสาเหตุใดๆ ก็ตาม รวมทั้งการกระทำของมนุษย์ด้วย สามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะของประชากร คือ





- พวกที่พบอาศัยอยู่ได้แต่ไม่มีการแพร่พันธุ์ (Escapee) คือชนิด ที่ปรับตัวให้อาศัยอยู่รอดได้ในธรรมชาติที่ต่างจากเดิมได้อาจจะชั่วชีวิตของมัน แต่ไม่มีการจับคู่ผสมพันธุ์และแพร่พันธุ์ได้ในถิ่นอาศัยใหม่ตามธรรมชาติ ซึ่งอาจเนื่องจากมีจำนวนน้อยหรือปัจจัยในถิ่นอาศัยไม่เอื้ออำนวยต่การแพร่พันธุ์


- พวกที่อาศัยอยู่ได้และแพร่พันธุ์ได้ (Flourished) เป็นชนิดที่สามารถอาศัยอยู่ได้ในสภาพธรรมชาติของที่อยู่ใหม่ และปรับตัวให้อยู่รอดร่วมกับชนิดพื้นเมืองได้ และสามารถแพร่พันธุให้เกิดประชากรรุ่นใหม่ขึ้นได้ ในธรรมชาติต่างถิ่นที่มันอาศัยอยู่ได้ (ตารางที่)


นอกจากนี้สัตว์ต่างถิ่นยังสามารถแบ่งได้ตามบทบาทที่มีต่อระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมออกได้เป็น 2 ประเภท คือ




1.ประเภทที่ไม่รุกราน (Non invasive) เป็นชนิดพันธุ์ที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หรือระบบนิเวศโดยตรงหรือชัดเจนนัก เนื่องจากมีการดำรงชีพที่ไม่แข่งขันหรือขัดต่อการดำรงชีพของสัตว์ชนิดอื่น หรือ สมดุลของระบบนิเวศ    มักเป็นชนิดพันธุที่พบน้อยหรือไม่แพร่พันธุในธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสภาพของนิเวศที่เปลี่ยนไปอาจมีผลให้ชนิดพันธุ์ดังกล่าวเจริญแทนที่และขัดขวางการฟืนตัวของสมดุลนิเวศในบางครั้ง สัตว์น้ำในประเภทนี้ เช่น ปลานิล ปลาไน และปลาจีน รวมถึงปลาเศรษฐกิจต่างๆ ที่ถูกปล่อยลงแหล่งน้ำทั่วไป





2.ประเภทที่รุกราน (Invasive alien species, IAS) เป็นชนิดที่แพร่พันธุ์ได้เร็วและมีความสามารถในการปรับตัวแข่งขันแทนที่ชนิดพันธุ์พื้นเมืองได้ดี และยังมีการดำรงชีพที่ขัดขวางหรือกระทบต่อสมดุลนิเวศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบชนิดพันธุ์พื้นเมือง หรืออาจเป็นศัตรูต่อผลผลิตการเพาะเลี้ยงสัตว์นํ้าการเกษตรได้ ตัวอย่าง เช่น ปลากดเกราะ ปลาดุกอัฟริกัน(ดุกรัสเซีย) และลูกผสม และหอยเชอรี่


ตาราง สัตว์น้ำต่างถิ่นที่พบแพร่พันธุ์ในธรรมชาติของไทย





ชนิด


ผลกระทบ


ประเภททีรุกราน


ประเภทไม่ชัดเจน


ปลานวลจันทร์เทศ Cirrhinus cirrhosus




+
ปลายี่สกเทศ Labeo rohita




+
ปลาเฉา ctenopharyngodon idellus




+
ปลาไน Cyprinus carpio




+
ปลาลิ่น Hypophthalmichthys molitrix




+
ปลาซ่ง Aristichthys nobilis




+
ปลาดุกอัฟริกันและลูกผสม Clarias gariepinus






ปลากดเกราะดำ Hypostomas spp.


+


ปลากดเกราะลาย Pterygoplichthys sp.


+


ปลาหมอเทศข้างลาย Oreochromis aureus


+


ปลาหมอเทศ 0. mossambicus




+
ปลานิล 0. niloticus


+


ปลานิลอกแดง Tilapia randalli




+
ปลาซิวไต้หวัน Poecilia velifera




+
ปลาหางนกยูง P. reticulata




+
ปลากินยุง Gambusia affinis




+
หอยเชอรี่ Pomacea gigas, p. canaliculata


+





วิธีการนำเข้าในถิ่นอาศัยธรรมชาติ


การที่สัตว์น้ำต่างถิ่นเข้าไปอาศัยในธรรมชาติได้นั้น เกิดจากการกระทำของมนุษย์ทิ้งทางตรงหรือทางอ้อม ได้ 2 วิธีใหญ่ๆ คือ


1.โดยไม่ตั้งใจ (Accidentally) เช่น การหลุดหนีจากที่เลี้ยงลงไป อุบัติเหตุขณะขนส่ง และโดยภัยธรรมชาติทำให้ที่เลี้ยงพังทลายลง เช่น น้ำท่วม พายุ


2.โดยตั้งใจ (Deliberate) เป็นการปล่อยเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ของมนุษย์โดยตรง เช่น เพื่อการทำบุญตามความเชื่อ ปล่อยทิ้งเนื่องจากเบื่อที่จะเลี้ยง หรือประสบความขาดทุนในการเพาะเลี้ยงเพื่อการค้า และ การปล่อยทิ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมจากเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะสัตว์น้ำที่นำเข้ามาหรือครอบครองอย่างผิดกฎหมาย





การปล่อยโดยความตั้งใจอีกประเภท คือ การปล่อยโดยหน่วยงานราชการเองเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการเพิ่มผลผลิตแหล่งนํ้าในธรรมชาติและที่ถูกสร้างขึ้น หรือการปล่อยในพิธีการและโครงการต่างๆ เช่น โครงการประชาอาสา โครงการประมงหมู่บ้าน ฯลฯ


สัตว์นํ้าที่พบหลุดหนีในแหล่งนํ้าธรรมชาติเสมอ




1.


ปลาอราไพม่า Arapaima gigas


2.


ปลาการ์จระเข้ Lepisosteus spp.


3.


ปลาปอดอัฟริกัน Protopterus spp.


4.


ปลามังกร Polypterus spp.


5.


ปลาไหลญี่ปุ่น Anguilla japonica


6.


ปลาพาดู Collossoma macropomum


7.


ปลาปิรันยา Serrasalmus spp.


8.


กบอเมริกา Rana catesbienna


9.


จระเข้ไคแมน Caiman crocodilus


10.


ตะพาบไต้หวัน Peiodiscus sinensis


11.


เต่าญี่ปุ่น (เต่าแก้มแดง) Preudemys scripta