วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตำนานเทพกรีก-โรมัน

ตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน คือ ศาสตร์หรือวิชาหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับตำนานหรือเรื่องเล่าขานต่าง ๆ ของเหล่าเทพเจ้าของชาวกรีก บางทีเราเรียกรวมกันว่า เทพเจ้ากรีก-โรมัน เพราะชาวโรมันรับอารยธรรมกรีกมาใช้แล้วเอาความเชื่อเรื่องเทพเจ้ามาด้วย เพียงแต่ชาวโรมันเปลี่ยนชื่อของบรรดาเทพเจ้ากรีกให้เป็นชื่อของตน แต่ตำนานความเป็นมาของเทพแต่ละองค์ยังคงเหมือนของกรีกทุกประการ
เทพเจ้ากรีก-โรมันมีมากมายหลายสิบองค์และเหล่าเทพบางองค์มีความสัมพันธ์กับทั้งเทพและมนุษย์ จึงเกิดทายาทเป็นทั้งมนุษย์และอมนุษย์อีกนับไม่ถ้วน เราสามารถเขียนแผนภูมิต้นไม้หรือ Family Tree ของ เทพเจ้าได้ แผนภูมิต้นไม้นี้แสดงถึงต้นกำเนิดของเทพแต่ละองค์ว่ามาจากไหน ใครเป็นผู้ให้กำเนิดและยังโยงต่อไปได้อีกว่าใครเป็นลูกหลาน แล้วโยงต่อไปอีกเรื่อยๆ ไม่มีจุดจบดังรากไม้ จึงมีอีกวิชาที่เกิดขึ้นคือ Genealogy of Greek-Roman Mythology เป็นการศึกษาแผนภูมิต้นตระกูลของเหล่าเทพและบรรดาทายาทของปวงเทพ
สันนิษฐานของที่มาของการเกิดเทวตำนานเทพเจ้ากรีก-โรมัน
อาจเป็นเพราะชาวกรีกโบราณพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองว่าทำไมฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือเหตุใดจึงมีเสียงสะท้อนจากถ้ำเมื่อเราส่งเสียง หรือ ฯลฯ นั่นเพราะความกลัวปรากฏการณ์ธรรมชาติจึงพยายามหาเหตุผลและชาวกรีกชอบฟังนิทานเรื่องเล่าปรัมปรา, ชอบแต่งโคลงกลอน จึงรักการขับลำนำและดีดพิณคลอไปด้วยจึงทำให้การขับลำนำเป็นที่นิยม เล่ากันว่าโฮเมอร์ (Homer) ก็เป็นนักขับลำนำชั้นยอดคนหนึ่งของกรีก ใคร ๆ ก็รักน้ำเสียงการเล่านิทานของเขา แรกเริ่มเทวตำนานเป็นบทกลอนที่ท่องจำกันมาเป็นรุ่น ๆ ต่อมามีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร เราจึงไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นผู้แต่งตำนานเทพเจ้า บ้างก็ว่า โฮเมอร์ เป็นผู้แต่ง อีเลียด (Iliad) บ้างก็ว่าแค่รวบรวม บ้างก็ว่ากวีกรีกนาม เฮซิออด (Hesiod) แต่ง ส่วน โอวิด (Ovid) กวีโรมก็เล่าถึงเทวตำนานแต่ใช้ชื่อตัวละครต่างกัน เล่มของโอวิดจะเล่าได้พิสดารกว่าของนักเขียนคนอื่น

[แก้] เทพเจ้ากรีก-โรมัน แห่งยอดเขาโอลิมปัส

เทพ 12 องค์บนยอดเขา Olympus

[แก้] เทพโอลิมปัส

เทพโอลิมปัส (The Olympians, Major gods) เป็นเทพที่อาศัยบนยอดเขาโอลิมปัส (Olympus) มีทั้งหมด 12 องค์ แต่ถ้านับอย่างถี่ถ้วนจะมีทั้งสิ้น 16 องค์ ดังนี้
1. ซีอูส (Zeus) เป็นราชาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายและเหล่ามนุษย์บนโลก ซีอูสมีอาวุธเป็น Thunderbolt (สายฟ้า) เทพซีอูสมีพี่น้องซึ่งเป็นเทพปกครองโลกร่วมกัน 5 องค์ ได้แก่ เทพโพไซดอน เทพีดีมิเทอร์ เทพีเฮร่า เทพฮาเดส และเทพีเฮสเตีย
2. โพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของพระองค์คือ “สามง่าม” หรือ “ตรีศูล” ที่สามารถแหวกน้ำทะเลและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้
3. ดิมิเทอร์ (Demeter) เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรรม การเก็บเกี่ยว
4. เฮร่า (Hera) ราชินีแห่งสวรรค์ เป็นทั้งน้องสาวของซีอูสและเป็นภรรยาด้วย เฮร่าเป็นเทพีแห่งการให้กำเนิดทารก การสมรส และสตรี สัตว์ประจำพระองค์คือนกยูง
5. เฮสเทีย (Hestia) เทพีพรมจรรย์แห่งการครองเรือน เทพแห่งครอบครัว ในฐานะของเทพีผู้รักษาบ้าน พระนางเป็นผู้ที่สร้างบ้านขึ้นเป็นคนแรก วิหารของพระนางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งจะได้รับการบวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสัญลักษณ์เป็นไฟนิรันดร
6. แอเรส (Ares) เทพแห่งสงคราม บุตรของ ซูส กับ เฮร่า สัตว์ประจำพระองค์คือเหยี่ยวและสุนัขมังกรไฟ (บางตำราว่าเป็นนกแร้ง)
7. อะพอลโล่ (Apollo) เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ เป็นบุตรแห่ง ซีอุส และ เทพีลีโต้ (Leto) มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ อาร์ทามิส (Artemis) อะพอลโล่มีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คือ ต้นลอเรล Laurel สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คือนกกาเหว่าและห่าน เครื่องดนตรีพระจำพระองค์คือพิณ วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อยู่ที่เดลฟี่ Delphi ซึ่งที่นั่นจะมีนักบวชคอยบอกคำทำนายของพระองค์ให้แก่ประชาชนที่มาสักการบูชา
8. อาร์เทมีส (Artemis) เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ เป็นบุตรีของซูสและ เทพีลีโต้ เป็นน้องสาวแฝดของอะพอลโล่ พระองค์เป็นเทพีพรหมจรรย์องค์หนึ่งใน 3 องค์ ภาพที่ผู้คนเห็นอยู่เสมอๆ คือพระองค์จะถือธนูและศร มีสุนัขติดตาม สวมกระโปรงสั้น บางครั้งอาจเห็นเธออยู่บนรถศึกเทียมด้วยกวางขาว
9. เฮอร์เมส (Hermes) เทพแห่งการค้า การโจรกรรม และผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ เป็นบุตรของ ซูส กับ มีอา พระองค์มักจะปรากฏกายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้าง สวมรองเท้ามีปีก ถือคทาที่มีงูพัน
10. อธีน่า (Athena) เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์ทุกแขนงของกรีกรวมถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์คือต้นมะกอก
เทพีอธีน่า เป็นผู้ที่มอบมะกอกให้กับมนุษย์เป็นองค์แรก ทำให้เมือง Athens ได้ใช้ชื่อของพระองค์เป็นชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติ
11. อะโฟร์ไดท์ (Aphrodite) เทพีแห่งความรักและความงาม เป็นบุตรีของ ซูส กับ เทพีไดโอนี่ (บางตำราว่าเกิดจากฟองคลื่น) สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้แก่นกกระจอก นกนางแอ่น ห่าน และเต่า ส่วนดอกไม้และผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางได้แก่กุหลาบ Myrtle และแอปเปิล กล่าวกันว่าพระนางเป็นเทพีผู้คุ้มครองเหล่าโสเภณีด้วย
12. เฮฟเฟตัส (Hephaestus) เทพแห่งไฟ โลหะ และการช่าง เป็นบุตรของ ซูส กับ เฮร่า (บางตำราว่าเป็นบุตรของ Hera ผู้เดียว) พระองค์เป็นเทพที่พิการและอัปลักษณ์
13. ไดโอไนซูส (Dionysus) เทพแห่งไวน์ การทำไวน์ และการเก็บเกี่ยวผลไม้ เป็นเทพองค์ล่าสุดที่ขึ้นไปอยู่บนโอลิมปัส
14. เพอร์เซโฟเน่ (Persephone) เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นบุตรีแห่ง ซูส และ ดีมิเทอร์
15. อีรอส (Eros) กามเทพ รู้จักกันดีในภาษาโรมันว่า คิวปิด Cupid เป็นบุตรแห่งเทพีความรัก อะโฟร์ไดตี้ และ เทพการศึกสงคราม เอเรส
16. เฮเดส (Hades)เทพแห่งใต่พิภพยมโลก และเป็นเทพดูแลอัญมณีใต้ดิน ชาวกรีกบูชาพระองค์ก่อนเสมอที่จะลงมือทำเหมืองแร่

[ เทพชั้นรอง

เทพชั้นรอง (Minor gods) เป็นเทพที่ไม่ได้อยู่บนเขาโอลิมปัส มีมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งเทพเหล่านี้ต่างก็มีหน้าที่และความสำคัญต่างๆ กันไป อาทิ เช่น

 พวกอมนุษย์

พวกอมนุษย์ (The Immortals) กลุ่มนี้จะเป็นพวกนางไม้ (Nymphs) ที่อยู่ตามป่า แม่น้ำ ลำธาร ถ้ำ หรือ ในทะเล หรือพวกสัตว์ประหลาดอย่างเช่น ยักษ์ตาเดียว ฯลฯ เหล่าอมุนษย์ของกรีกนั้นมีมากพอๆ กับพวกเทพเจ้า ดังนั้นจะขอกล่าวถึงเฉพาะวีรบุรุษที่สำคัญและเป็นที่รู้จักกันมากเท่านั้น เช่น

 พวกมนุษย์

พวกมนุษย์ (The Mortals) กลุ่มนี้จะรวมทั้งเหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีของกรีกด้วย (The Heroes and Heroines)เหล่าวีรบุรุษและวีรสตรีของกรีกนั้น มีมากพอๆ กับพวกเทพเจ้า ดังนั้นจะขอกล่าวถึงเฉพาะวีรบุรุษที่สำคัญและเป็นที่รู้จักกันมากเท่านั้น

[แก้] รูปภาพประกอบ


วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วัฒธรรม







ภาคใต้มีด้วยกัน 14 จังหวัด ดังนี้
1.ชุมพร 2.กระบี่ 3.นครศรีธรรมราช 4.นราธิวาส 5.ปัตตานี 6.พังงา 7.พัทลุง 8.ภูเก็ต 9.ระนอง 10.สตูล สงขลา 12.สุราษฎร์ธานี 13.ตรัง 14.ยะลา



 การแต่งกายนั้นแตกต่างกันในการใช้วัสดุ และรูปแบบโดยมีเอกลักษณ์ไปตามเชื้อชาติ ของผู้คนอันหลากหลายที่เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนอันเก่าแก่แห่งนี้พอจำแนกเป็น





กลุ่มใหญ่ๆ ได้ดังนี้
ี้
1. กลุ่มเชื้อสายจีน – มาลายู เรียกชนกลุ่มนี้ว่ายะหยา หรือ ยอนย่า เป็นกลุ่มชาวจีน เชื้อสายฮกเกี๊ยนที่มาสมรสกับชนพื้นเมืองเชื้อสายมาลายู ชาวยะหยาจึงมีการแต่งกายอันสวยงาม ที่ผสมผสาน รูปแบบของชาวจีนและมาลายูเข้าด้วยกันอย่างงดงาม ฝ่ายหญิงใส่เสื้อฉลุลายดอกไม้ รอบคอ,เอว และปลายแขนอย่างงดงาม นิยมนุ่งผ้าซิ่นปาเต๊ะ ฝ่ายชายยังคงแต่งกาย คล้ายรูปแบบจีนดั้งเดิมอยู่

2. กลุ่มชาวไทยมุสลิม ชนดั้งเดิม ของดินแดนนี้นับถือศาสนาอิสลาม และมี เชื้อสายมาลายู ยังคงแต่งกายตามประเพณี อันเก่าแก่ฝ่ายหญิงมีผ้าคลุมศีรษะ ใส่เสื้อผ้ามัสลิน หรือลูกไม้ตัวยาวแบบมลายูนุ่งซิ่นปาเต๊ะ หรือ ซิ่นทอแบบมาลายู ฝ่ายชายใส่เสื้อคอตั้ง สวมกางเกงขายาว และมีผ้าโสร่งผืนสั้น ที่เรียกว่า ผ้าซองเก็ต พันรอบเอวถ้าอยู่ บ้านหรือลำลองจะใส่โสร่ง ลายตารางทอด้วยฝ้าย และสวมหมวกถักหรือ เย็บด้วยผ้ากำมะหยี่

3. กลุ่มชาวไทยพุทธ ชนพื้นบ้าน แต่งกายคล้ายชาวไทยภาคกลาง ฝ่ายหญิงนิยมนุ่งโจงกระเบน หรือ ผ้าซิ่นด้วย ผ้ายกอันสวยงาม ใส่เสื้อสีอ่อนคอกลม แขนสามส่วน ส่วนฝ่ายชายนุ่งกางเกงชาวเล หรือ โจงกระเบนเช่นกัน สวมเสื้อผ้าฝ้ายและ มีผ้าขาวม้าผูกเอว หรือพาดบ่าเวลาออกนอกบ้านหรือไปงานพิธี





อาชีพในภาคใต้มีค่อนข้างหลากหลายไปในแต่ละจังหวัด แต่ที่สำคัญได้แก่ การทำสวน มีสวนยางพารา เป็พืชสำคัญที่สุด รองลงไปเป็นสวนมะพร้าว สวนผลไม้ ซึ่งได้แก่เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง สวนปาล์น้ำมัน ไร่กาแฟ ส่วนการทำนาจะมีมากทางด้านชายฝั่งตะวันออกในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และบางส่วนของจังหวัดสงขลา นอกเหนือไปจาก การเกษตรกรรมทางภาคใต้มีการทำเหมืองแร่ กันในหลายจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นการขุดแร่ดีบุก การประมงมีการทำกันตลอดชายฝั่งทะเล และมีท่าเรือประมงที่ไป จับปลาห่างจากชายฝั่ง

 

ภาษาใต้

ภาษาถิ่นใต้ หรือ ภาษาใต้ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ภาษาปักษ์ใต้ ได้แก่ ภาษาที่พูดกันในภาคใต้ของประเทศไทย เช่น นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สุราษฏร์ธานี เป็นต้น

ภาษาไทยถิ่นใต้ตะวันออก
ภาษาไทยถิ่นใต้ตะวันตก
ภาษาถิ่นใต้สำเนียงสงขลา





อาหารส่วนใหญ่ของคนภาคใต้ มักเกี่ยวข้องกับปลา และสิ่งอื่น ๆ จากท้องทะเล อาหารทะเลหรือปลา
โดยธรรมชาติจะมีกลิ่นคาวจัด อาหารภาคใต้จึงไม่พ้นเครื่องเทศ โดยเฉพาะขมิ้นดูจะเป็นสิ่งที่แทบจะขาด
ไม่ได้เลย เพราะช่วยในการดับกลิ่นคาวได้ดีนัก ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าอาหารปักษ์ใต้จะมีสีออกเหลือง ๆ แทบ
ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแกงไตปลา แกงส้ม แกงพริก ปลาทอด ไก่ทอด ก็มีขมิ้นกันทั้งสิ้น






เครื่องดนตรี
ทับ
เป็นเครื่องดนตรีที่มีความสำคัญ ในการให้จังหวะ ควบคุม การเปลี่ยนแปลงจังหวะ

กลองโนรา
ใช้ประกอบการแสดง โนราหรือหนัง ตะลุง โดยทั่วไปมี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของหน้า

โหม่ง
เป็นเครื่องดนตรี ที่มีส่วนสำคัญ ในการขับ บท ทั้งในด้านการให้เสียง

ปี่
เครื่องดนตรีชนิดนี้มีความสำคัญใน การเสริมเสียงสะกดใจผู้ชม

แตระพวงหรือกรับพวง
เป็นเครื่องประกอบจังหวะทำจากไม้เนื้อแข็ง
ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก หลายคนอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยทันวันสำคัญ ซึ่งมีแค่ปีละหน สาวๆ หลายคนก็มีปัญหาที่กลุ้มใจแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่กลุ้มในเรื่องน้ำหนักตัว และไขมันส่วนเกิน บางคนมีชุดสวยที่เล็งเอาไว้ แต่กลัวจะใส่ไม่สวย หรือแย่กว่านั้นคือ อาจจะใส่ไม่ได้

อาหารวันวาเลนไทน์

เคล็ดลับดีๆ ในการลดน้ำหนัก

สัดส่วนในการรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่มีสัดส่วนที่เหมาะสม นอกจากจะทำให้สุขภาพดียังช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ด้วย การรับประทานอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นอาหารหลักในการนำไปใช้ในกระบวนการสร้างพลังงานของร่างกายนั้นควรมีสัดส่วนประมาณ 40-60%

ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง ขัดขาว ข้าวสวย ขนมปัง เพราะอาหารประเภทนี้สามารถเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้รวดเร็วมาก สังเกตง่ายๆ ว่า เวลาอมข้าวจะรู้สึกว่า หวานอร่อย ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงในเวลารวดเร็ว ฮอร์โมนอินซูลินในร่างกายจะต้องหลั่งออกมามากขึ้นในกระแสเลือด มีผลทำให้เพิ่มการสะสมของไขมันในร่างกายได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกรับประทานคาร์โบเดรตประเภทที่มีใยอาหาร (Fiver) สูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ธัญพืช ดีที่สุดคือ อาหารจำพวกผักหรือผลไม้ที่รสไม่หวานจัด ย่อยได้ช้า และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เปลี่ยนแปลงมาก

ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน เค้ก เบเกอรี่ น้ำหวาน น้ำอัดลม เพราะระดับน้ำตาลที่สูงในกระแสเลือด นอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว จะไปจับตัวกับโปรตีน โดยเฉพาะคอลลาเจน อีลาสตินที่อยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้ความยืดหยุ่นเสียไป ผิวเหี่ยวก่อนวัยอันควร รู้แบบนี้ หันไปดื่มน้ำกันดีกว่า

สำหรับอาหารประเภทโปรตีน ควรรับประทานในปริมาณมากขึ้น สัดส่วนประมาณ 30-40% และเลือกรับประทานในชนิดที่มีไขมั่นต่ำ เช่น เนื้อปลา เนื้อหมู หรือ เนื้อวัวไม่ติดมัน เนื้อไก่ไร้หนัง ไข่ขาว ถั่ว หลีกเลี่ยงการทอด หรือการผ่านความร้อนสูงเป็นระยะเวลานาน เพราะนอกจากจะทำให้โปรตีนในอาหารเปลี่ยนสภาพไปแล้ว ยังทำให้เกลือแร่และวิตามินต่างๆ เสียไปอีกด้วย

อาหารประเภทไขมัน ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น กะทิ ไขมันสัตว์ เนย นม หรือแม้กระทั่งครีมเทียม แต่เลือกรับประทานไขมันชนิดไม่อิ่มตัวแทน เช่น น้ำมันพืช น้ำมันปลา น้ำมันมะกอก ขอย้ำว่า ต้องไม่นำน้ำมันพวกนี้ไปผ่านความร้อนสูง เพราะจะทำให้ตรงที่ไม่อิ่มตัวนี่แหละเปลี่ยนสภาพไปกลายเป็นไขมันชนิดทานส์ (trans fat)  แย่กว่าไขมันชนิดอิ่มตัวอีก trans fat สามารถไปสะสมในเส้นเลือดเพิ่มอัตราเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจในอนาคต

ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งในการเลือกรับประทานอาหาร ตัวอย่างรายการอาหารที่ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก เช่น สเต๊กปลาย่าง หรืออบกับสลัดผักน้ำใสแบบอิตาเลียน แบบประเภทน้ำส้ม vinegar ผสมน้ำมันมะกอก ซูชิ สุกี้ น้ำพริกผักต้ม ปลาย่าง อาหารประภทยำ หรืออาหารจำพวกส้มตำไก่ย่าง (แบบที่ไม่ใส่น้ำตาลมากๆ)

ข้อแนะนำอื่นๆ ที่ช่วยในการลดน้ำหนัก ก็คือออกกำลังกาย เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการลดสัดส่วนควรออกกำลังกายแบบแอโรบิกอย่างรน้อย 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าใครพยายามแล้วก็ยังไม่ได้ผล แถมน้ำหนักยังขึ้นเอาอีก อาจมีปัญหาเรื่องความผิดปกติของการสร้างฮอร์โมน โดยเฉพาะไทรอยด์ หรือโรคผิดปกติของต่อมหมวกไต ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจน และรักษาให้ถูกต้อง




Credit : http://www.marthastewart.com/photogallery/valentines-day-treats?&lpgStart=1¤tslide=20¤tChapter=1 










Credit : http://daxiaojie.diaryland.com/080102_25.html 












Credit : http://www.recipe.com/recipes/more-holidays/valentines-day/ 







แต่งหน้าเค้กด้วยผลไม้ที่มีสีสันสดใส



Credit : http://douceurdefrance.com/valentine.htm







Beetroot Soup



Credit : http://fordesis.com/recipes/archived/beetroot.html 

วันวาเลนไทน์

 

ประวัติวันวาเลนไทน์

 

.. วันวาเลนไทน์ ..


วันวาเลนไทน์ นั้นมีมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน ในกรุงโรมสมัยก่อนนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จะเป็นวันเฉลิมฉลองของจูโน่ ซึ่งเป็นราชินีแห่งเหล่าเทพและเทพธิดาของโรมัน ชาวโรมันรู้จักเธอในนามของเทพธิดาแห่ง อิสตรีและการแต่งงาน และในวันถัดมาคือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ก็จะเป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของ Lupercalia การดำเนินชีวิตของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในสมัยนั้นจะถูกแยกจากกันอย่างเด็ดขาด แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีประเพณี อย่างนึง ซึ่งเด็กหนุ่มสาวยัง สืบทอดต่อกันมา คือ คืนก่อนวันเฉลิมฉลอง Lupercalia นั้นชื่อของเด็กสาวทุกคนจะถูกเขียนลงในเศษกระดาษเล็ก ๆ และจะใส่เอาไว้ในเหยือก เด็กหนุ่มแต่ละคนจะดึงชื่อของเด็กสาวออกจากเหยือก แล้วหลังจากนั้นก็จะจับคู่กันในงานเฉลิมฉลอง บางครั้งการจับคู่นี้ ท้ายที่สุดก็จะจบลงด้วยการ ที่เด็กหนุ่มและเด็กสาวทั้งสองนั้นได้ตกหลุมรักกันและแต่งงานกันในที่สุด

ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สอง (Claudius II) นั้น กรุงโรมได้เกิดสงครามหลายครั้ง และคลอดิอุสเองก็ประสบกับปัญหาในการที่จะหาทหารจำนวนมากมายมหาศาลมาเข้าร่วมในศึกสงคราม และเขาเชื่อว่าเหตุผลสำคัญก็คือ ผู้ชายโรมันหลายคนไม่ต้องการจากครอบครัวและคนอันเป็นที่รักไป และด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้จักรพรรดิคลอดิอุสประกาศให้ยกเลิกงานแต่งงานและงานหมั้นทั้งหมดในกรุงโรม ถึงกระนั้นก็ตาม ยังมีนักบุญผู้ใจดีคนหนึ่งซึ่งชื่อว่า ท่านนักบุญ " วาเลนไทน์ " ท่านเป็นพระที่กรุงโรมในสมัยของจักรพรรดิคลอดิอุสที่สองท่าน นักบุญ วาเลนไทน์ และนักบุญ มาริอุส ได้จัดตั้งกลุ่มองค์กรเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือชาวคริสเตียนที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านี้ และได้จัดให้มีการแต่งงานของคู่รักอย่างลับๆด้วย

 และจากการกระทำเหล่านี้เอง ทำให้ นักบุญ วาเลนไทน์ ถูกจับและถูกตัดสินประหารโดยการตัดศรีษะ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประมาณปีคริสต์ศักราชที่ 270 ซึ่งถือเป็นวันที่ท่านได้ทนทุกข์ทรมานและเสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์
 

.. ทำไมจึงชื่อ " วันวาเลนไทน์ " ..


วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น วันวาเลนไทน์ ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกันส่งใจถึงกัน นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย และดูเหมือนจะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี เป็นประเพณีที่หนุ่มสาวนิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศอังกฤษ

ทำไมจึงมีชื่อว่า “ วันวาเลนไทน์ ” และความหมายที่แท้จริงของวันนี้คืออะไร? และมาจากไหน?

นักบุญ วาเลนไทน์ (Valentine) เป็นสงฆ์คาทอลิกองค์หนึ่งที่ได้ถูกประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ คริสตศักราช 270 ในสมัยพระเจ้าจักรพรรดิโรมัน เกลาดิอุส ที่ 2 ( Clanoius) โดยแท้จริงแล้วท่านนักบุญไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีการเลือกคู่ หรือหาคู่ หรือหาแฟน หรือความรัก ความสนใจระหว่างหนุ่มสาว ท่านก็ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วยเลย ถ้าเช่นนั้นแล้ว ทำไมจึงเลือกนักบุญองค์นี้มาเป็นองค์อุปถัมภ์สำหรับผู้ที่กำลังหาคู่ เลือกคู่หรือเลือกแฟนกันได้เล่า ? เหตุผลที่ค้นพบได้ก็คือ ที่มาของวันวาเลนไทน์ ไม่ขึ้นอยู่กับคนผู้นี้ แต่ขึ้นอยู่กับวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ประเพณีเลือกคู่ หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุกชาติ ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของมนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณี วาเลนไทน์ นี้ก็มีต้นเหตุหรือ ที่มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส (Lupercus) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และถือว่าเป็นการฉลองใหญ่ ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะเป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว ซึ่งจัดขึ้นในวันก่อนวันฉลองใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์ นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรักกันชั่วระยะเวลา 1 ปี ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลองมิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่ ชาวโรมันเป็นคนศรัทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่งซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วงระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน 1 ปี นั้น เทพเจ้าองค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata ซึ่งตาม เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์มหาเทพเจ้าทั้งหลาย

ครั้นต่อมา เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือศาสนาคริสต์ (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 ) ประเพณีของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกัน เพื่อจะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่ แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม ฉะนั้นเขาก็ยังรักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้นอยู่ตลอดมา เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาวคริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่ เพราะคริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี นักบุญวาเลนไทน์องค์นี้เอง จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน เรื่องราวความเป็นมามีดังนี้ ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือกตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์ โดยที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อย

ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับอันตรายบางอย่าง และอาจจะเป็นโอกาสให้พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้นเอง ความหมายของการมีวันวาเลนไทน์ นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาวหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันด้วยใจบริสุทธิ์

ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า “You are my Valentine” ที่มักจะเขียนลงในบัตรส่งใจถึงกันและกัน ประโยคตามความหมายเดิม หมายถึงว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอตัวเป็นเพื่อนสนิทของท่านในช่วงเวลา 1 ปี และข้าพเจ้าพร้อมที่จะตกลงแต่งงานกับท่าน ถ้ามิตรภาพของเรานี้เป็นสิ่งที่ยืนยง”
ลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่มสาวที่จะช่วยให้ก้าวหน้าในความรักที่แท้จริงนั้น ก็ควรจะประกอบด้วย 3 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1. ให้รู้จักกันทั้งในด้านดี ในด้านเสีย และข้อผิดพลาดซึ่งต่างก็มีอยู่ และยอมรับซึ่งกันและกันในข้อเหล่านั้น
2. ให้เคารพและเห็นใจกัน โดยเสียสละต่อกันเพื่อให้คนรักของตนได้รับความดี และความสุขใจในทางที่บริสุทธิ์งดงาม
3. ให้มีการปรับปรุง และเปลี่ยนนิสัยของตนในส่วนที่บกพร่อง เพื่อจะอยู่กันด้วยความสุขในอนาคต
ลักษณะทั้งสามดังกล่าวนี้ คงจะเป็นประโยชน์สำหรับหนุ่มสาวไทยไม่เฉพาะ ในวันวาเลนไทน์หรือสำหรับกลุ่มที่นิยมประเพณีต่างประเทศเท่านั้น แต่สำหรับทุกคู่ที่แสวงหาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันอัน จะนำไปสู่ความรักที่มั่นคงและยั่งยืนชั่วชีวิต
 

.. คิวปิด ..


คนทั่วไปรู้จัก คิวปิด ในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก มือถือคันธนูกับลูกศรและมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร ศรรักของ คิวปิด หมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิด จะเล็งลูกศรไปที่พระเจ้าและมนุษย์เพื่อทำให้พระเจ้ากับมนุษย์รักกัน
คิวปิดมักจะมีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรัก ในกรีกโบราณ คิวปิด เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า เอโรส ลูกชาย แอฟโพไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงามแต่สำหรับพวกโรมัน เขาคือคิวปิด และแม่ของเขาคือ วีนัส

มีเรื่องน่าสนใจพอสมควรเกี่ยวกับ คิวปิด และ ไซคี เจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน ผมขอแนะนำผู้อ่านให้รู้จักคู่รักของ คิวปิด สักนิดนะครับว่าเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ และเพราะความงามนี้เองที่ทำให้ วีนัส อิจฉา นางจึงได้สั่ง คิวปิด ให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่ คิวปิด ตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้น แทนที่จะลงโทษเธอ คิวปิด กลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจาก ไซคี มิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา (ตรงนี้ผมไม่ทร าบเหมือนกันนะครับว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ได้เธอเป็นภรรยาแล้วภรรยามองไม่ได้ แต่อย่าไปคิดอะไรมากนะครับ เพราะเทพนิยายฝรั่งก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากละครน้ำเน่าบ้านเรา)

หลังจากตกเป็นภรรยาของ คิวปิด แล้ว ไซคี ก็มีความสุขเรื่อยมา (ก็แหงละ) จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมอง คิวปิด ทันทีที่เธอมอง คิวปิด คิวปิด ก็ลงโทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคี ก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่งซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆหรือ คิวปิด ปรากฏให้เห็นเลย

ในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของ วีนัส โดยบังเอิญ เมื่อ วีนัส เทพธิดาแห่งความรักพบว่า ไซคี ยังมีชีวิตอยู่ เธอก็ปราถนาที่จะ ทำลาย ไซคี ด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานสุดท้ายที่ ไซคี ได้รับมิใช่งานขับเครื่องบินชนตึกเวิร์ลเทรดครับ หากแต่เธอได้รับกล่องใบหนึ่งมาและได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอา ความงามของ โพรเซอร์พีน ภรรยาของ พลูโต ใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย นอกจากนั้นแล้ว เธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็นหรืออะไรก็ไม่ทราบ เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย

ต่อมา คิวปิด ได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง หลังจากนั้น คิวปิด ก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับ วีนัส เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อ คิวปิด จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่ง

ปัจจุบันนี้รูป คิวปิด แผลงศรเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน และเมื่อศรรักของ คิวปิด พุ่งโดนหัวใจหนุ่มสาวคนใดในวันวาเลนไทน์ หนุ่มสาวคนนั้นก็จะออกอาการ "สติวปิ้ด" จากศรรักของ คิวปิด ขึ้นมาทันที อาการนี้จะเห็นได้จากการส่งดอกกุหลาบสีแดง ส่งช็อคโกแล็ต การส่งบัตรอวยพรและอื่นๆ อีกครับ

หมายเหตุท้ายบท : "สติวปิ้ด" เป็นภาษาอังกฤษแปลว่า "โง่" ครับ เหมือนคำบางคำที่เราอาจเคยได้ยินว่า "ความรักบางครั้งก็ทำให้คนตาบอด และ มองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนที่เรารัก"

อ่านตำนานของเทพ อีรอส(Eros) หรือคิวปิด(Cupid)ฉบับเต็มได้ที่นี่
 

.. ดอกไม้ " วันวาเลนไทน์ " ..


มนุษย์ได้ใช้ดอกไม้เป็นสื่อในการแสดงความรักต่อกันมานานแล้ว เราอาจจะคิดว่าดอกไม้เป็นสิ่งที่สามารถใช้สื่อความหมายเฉพาะความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถสื่อความรักได้หลาย รูปแบบ ทั้งยังไม่จำกัดอายุและเพศอีกด้วย

กุหลาบตูม
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น
กุหลาบสีดำ
กุหลาบดำ หมายถึง ความรักนิรันดร์
redrose
กุหลาบแดง (red rose) : จะใช้ในความหมายแทน ประโยคที่ว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่รักความ หมายถึงความรักอันลึกซึ้ง จริงจัง กุหลาบแดงจึงมักจะเป็นดอกไม้ ที่ชายหนุ่มให้หญิงสาวที่ตนเองตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน
whiterose
กุหลาบขาว (white rose) : สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธ์ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ดังนั้นมันจึงสามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัย ความรักต่อพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้
pinkrose
กุหลาบชมพู (pink rose) : มักถูกใช้แทนความรักแบบโรแมนติก และความเสน่หาต่อกัน การให้ดอกกุหลาบสีชมพูสามารถแสดงถึงความรัก ที่กำลังเริ่มงอกงามในใจ และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้
yellowrose
กุหลาบเหลือง (yellow rose) : สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองถูกใช้สำหรับแทนความรักแบบเพื่อน และความ สนุกสนานรื่นเริงจึงมักจะนำมันมาประดับตะกร้าสำหรับเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อทำให้คนป่วยรู้สึกสดชื่นรื่นเริงขึ้นนั่นเอง
redtulib
สำหรับดอกไม้อื่น ๆ ที่ถูกมาใช้แทนความหมายแห่งความรักก็มี ดอกทิวลิบสีแดง (red tulib) ชาวตะวันตกใช้มันแทนการประกาศความรัก อย่างเปิดเผย คล้าย ๆ กับดอกกุหลาบแดง
pink carnation
ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู (pink carnation) ใช้สื่อความหมายว่า "ถึงอย่างไรผมก็ยังรักคุณ" หรือ "คุณยังอยู่ในหัวใจฉันเสมอ"
white lilly
ดอกลิลลี่สีขาว (white lilly) แสดงความรักแบบบริสุทธ์ เช่นเดียวกันกับดอกกุหลาบขาว นอกจากนั้นลิลลี่สีขาวยังแสดงถึงความรักแบบอ่อนหวานจริงใจ และเทอดทูน และมักถูกใช้แทนประโยคที่ว่า "ฉันรู้สึกดี ๆ ที่ได้ได้รู้จัก และอยู่ใกล้คุณ "
forget me not
สำหรับดอก forget-me-not มีความหมายตรงตัวคือได้โปรดอย่าลืมฉัน และอย่าลืมความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กัน
sunflower
มาถึงดอกไม้ที่เห็นได้ทั่วไปในบ้านเราบ้างดอกทานตะวัน (sunflower) มีความหมายถึงความรักแบบคลั่งไคล้ ความรักแบบบูชา แต่สำหรับชาวตะวันตก ดอกทานตะวันจะหมายถึงความเข้มแข็งอดทน จึงสามารถใช้แทนความรักที่ต้องฝ่าฟันกว่าจะได้ความรักมา

จะเห็นได้ว่าดอกไม้เป็นประดิษฐกรรมทางธรรมชาติที่มนุษย์เรานำมาใช้เป็นสื่อแทนความหมาย แห่งความรักได้หลายรูปแบบ การมอบดอกไม้ให้กับคนที่เรามีความรู้สึกพิเศษจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ... Vlentine นี้คุณมีดอกไม้ในใจที่จะให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง
วันวาเลนไทน์ในประเทศญี่ปุ่น วันวาเลนไทน์กับชอคโกแลต ช๊อกโกแล็ต

.. ชอคโกแลตกับวันวาเลนไทน์ ..


ในวันวาเลนไทน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ฝ่ายหญิงนิยมที่จะมอบชอคโกแลตให้กับฝ่ายชาย (ส่วนผู้ชายจะมอบของขวัญตอบแทนให้กับผู้หญิงในวันที่ 14 มีนาคม ซึ่งเรียกวันนั้นว่า White Day หรือ วันสีขาว) ความนิยมการมอบชอคโกแลตนั้นเกิดขึ้นมาจากการใช้เครื่องมือทางการตลาดของบริษัทผลิตชอคโกแลต ผู้หญิงญี่ปุ่นถูกกระตุ้นให้บอกรักอย่างชัดเจนกับผู้ชายโดยการมอบชอคโกแลตและของขวัญชนิดอื่นในวันที่ 14 กุมภาของทุกปี

 ร้านขายของชำ ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อจะขายชอคโกแลตที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น ชอคโกแลตที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศ มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายชอคโกแลตทั้งปีนั้น จะมาจากช่วงวันวาเลนไทน์ เหตุก็เพราะผู้หญิงแดนอาทิตย์อุทัยจะซื้อชอคโกแลตเพื่อแจกให้กับทั้งเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เพื่อนชาย พี่ชาย คุณพ่อ สามี แฟน และผู้ชายที่เธอรู้จักและมีความยินดีที่จะมอบให้

 ชอคโกแลตที่มอบให้กับผู้ชายที่เธอไม่ได้หลงรัก ถูกเรียกว่า “giri-choco” (แปลว่า ชอคโกแลตที่ให้ตามหน้าที่ หรือ ชอคโกแลตตามมารยาท) เช่น ชอคโกแลตที่มอบให้กับเพื่อนร่วมงาน หรือกับหัวหน้างานเป็นต้น

 ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกอับอายอย่างมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับชอคโกแลตในวันนี้ ผู้หญิงจึงพยายามมอบ giri-choco กับผู้ชายที่รู้จักทุกคน เพียงเพื่อไม่ให้ผู้ชายต้องมีความรู้สึกว่าตัวเขานั้นไม่ได้รับการใส่ใจ ราคาโดยเฉลี่ยของ giri-choco ตกประมาณอันละ 100 – 300 เยน

 ผู้หญิงบางกลุ่มมีแนวโน้มที่จะให้ของขวัญพิเศษกับคนที่ตนรัก เช่น เนคไทค์ และเสื้อผ้าควบคู่ไปกับชอคโกแลตด้วย ชอคโกแลตประเภทนี้จะเรียกว่า "honmei-choco." (แปลว่า ผู้ชนะที่คาดหวังไว้ prospective winner) Honmei-choco จะมีราคาที่แพงกว่า giri-choco และบางครั้งจะเป็นชอคโกแลตทำเอง ซึ่งผู้ชายที่ได้รับนั้นถือว่าโชคดีมาก

 ชอคโกแลตญี่ห้อดังของญี่ปุ่นได้แก่ Glico, Meiji และ Morinaga แต่ผู้ชายบางคนมักจะพอใจกับชอคโกแลตทำเองมากกว่า เพราะมันจะแสดงออกถึงความตั้งใจของคนทำนั่นเอง

บทความจาก Setsuko Yoshizuka
 

ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญวาเลนไทน์

 

 

10 สถานที่ที่โรแมนติกของโลก

1. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส   กรุงปารีสนับว่าเป็นเมืองที่โรแมนติกมากที่สุดในโลก ความโรแมนติกนั้นสามารถจำกัดความเมืองนี้ได้เป็นอย่างดี   มีสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลายแห่งเช่น  Le Louvre,  Feel Tower,   Chams Elysees,    Sacre Coeur,  Notre  Dame, Arc de Triumphe, Euro Disnney, Montparnasse, Centre Pompidou และอื่นๆอีกมากมาย หากมีโอกาสลองหาเวลาไปเที่ยวสักครั้งหนึ่งก็ดีนะคะ
2. เวนิส   ประเทศอิตาลี  เมืองเวนิสเป็นเมืองที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเช่น ด้านสิ่งแวดล้อม   สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์  ตามคลองต่างๆของเมืองเวนิสจะมีเรือแล่นไปมา  มีตึกอาคารที่เก่าแก่และถนนแคบๆแบบหวานโรแมนติกที่ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าตื่นเต้นเหมือนสวรรค์บนดินเลยทีเดียว  สิ่งที่น่าสนใจก็มีมากมายเช่น  Ponte di Rialto, Piazza San Marco, Ponte dei Sospiri และ Canale Grande 
3. น้ำตกไนแองการา เป็นน้ำตกที่กั้นพรมแดนระหว่างเมืองออนแทริโอ ประเทศแคนาดาและเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา   น้ำตกไนแองการาเป็นสถานที่ที่สามาถดึงดูดคู่รักฮันนีมูนจำนวนมากมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว  เพราะถือว่าเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับโลก  มีความสูงถึง 56 เมตร  และความยาวประมาณ 670 เมตร  สามารถมองเห็นวิวต่างๆที่สวยงามได้ซึ่งถ้าอยู่ฝั่งประเทศอเมริกาและบริเวณสะพานเรนโบก็จะมองเห็น  Queen Victoria Park ในฝั่งของประเทศแคนาดาด้วยระยะการมองเห็นที่ไกลถึง 300 เมตร นอกจากนี้หากใครที่ต้องการไปดูถ้ำที่อยู่ทางด้านหลังของน้ำตกก็สามารถขึ้นลิฟต์ไปดูได้
4. โออาฮู ฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา  เกาะฮาวายเป็นเกาะที่สวยมากเกาะหนึ่งครอบคลุมพื้นที่ในหลายมหาสมุทร  ที่นี่มีลักษณะภูมิอากาศแบบอบอุ่นและได้รับการยอมับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เกาะฮาวายเป็นเกาะที่โรแมนติกอีกแห่งด้วย
5.กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย   ในแถบยุโรปนั้นกรุงเวียนนาถือว่าเป็นเมืองที่มีความสำคัญมากที่สุดและมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม   กรุงเวียนนามีความภาคภูมิใจในประเพณีวัฒนธรรมของตัวเอง   ปัจจุบันนี้ผู้คนก็ยังสามารถที่จะดื่มไวน์ตามที่พักข้างถนนได้เหมือนกับเมื่อหลายศตวรรษก่อนและนั่งรถม้าไปมาได้เหมือนเดิม  กรุงเวียนนาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความรุ่งเรืองด้านสถาปัตยกรรม  ศิลปะและมีมรดกทางด้านดนตรีมากมายเช่น โบสถ์เซนต์สตีเฟน  พระราชวังเชินบรุนน์  สวนสนุกพราเตอร์  พระราชวังฮอฟเบิร์ก  พิพิธภัณฑ์ศิลปะ  พิพิธภัณฑ์ซิกมุนด์ฟรอยด์  สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น  กรุงเวียนนายังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง
6ปราก สาธารณรัฐเช็ก   กรุงปรากมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย  มีทั้งอาหารอร่อย  ปราสาทเก่าแก่ แหล่งชอปปิ้งราคาไม่แพงและยังได้สัมผัสกับผู้คนที่จิตใจดี   และที่นี่ยังเป็นบ้านของคาฟคาซึ่งเป็นนักเขียนชาวยิวที่มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งและยังเป็นสถานที่โปรดปรานของโมซาร์ทอีกด้วย   มีสะพานชาร์ลที่ข้ามแม่น้ำวัลตาวาซึ่งมีความงดงามมากด้วยสายน้ำที่คดเคี้ยวและมีปราสาทHradcanyหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ด้วย   สำหรับย่านเมืองเก่าก็จะมีถนนสายเล็กซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก  เพราะตั้งอยู่บริเวณที่มีภัตคาร ร้านอาหารมากมายที่สามารถหาซื้อสินค้าคุณภาพดี  อาหารอร่อยๆและราคาก็ไม่แพงด้วย     บริเวณจัตุรัส Wenceslas ก็มีร้านขายสินค้าแบรนด์เนมและของที่ทันสมัยต่างๆ     นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อสิ่งของทุกอย่างได้ที่นี่ไม่แพ้เมืองใหญ่ๆอย่างเบอร์ลิน  ลอนดอนและปารีสเลย  และที่ได้กำไรคือวิวสวยๆของกรุงปรากที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและคุณจะเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงได้ฉายาว่า  “ City of a hundreded spires”
7ริโอ เดอ จาเนโร  ประเทศบราซิล  เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในโลกเหมือนกัน  ตั้งอยู่ในคาบมหาสมุทรแอตแลนติก  ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้  เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดที่สวยงาม   เนินเขาที่ยกสูงขั้นและปกคลุมด้วยป่าไม้เขตร้อนทำให้สามารถมองเห็นวิวที่สวยงามของเมืองนี้   เมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องงานคานิวัลประจำปีที่ยิงใหญ่  มีการแสดงดนตรีทั้งกลางวันและกลางคืน  ร้องเพลง  งานสังสรรค์ ขบวนพาเหรดของนักเต้นจังหวะแซมบ้าเก่งๆหลายคน   และสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆเช่น  Sugar-Loaf, the Redemptor Christ, the Downtown Rio, Old Rio และชายหาด Copacabana และ Ipanema ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานคานิวัล
8เมือง Punta Cana สาธารณรัฐโดมินิกัน        เมืองนี้ได้ถูกค้นพบใน ค.ศ. 1492 โดยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส   ปัจจุบันนี้มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีที่มาเที่ยวชมสาธารณรัฐโดมินิกัน  ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงวันหยุดในแถบทะเลแคริบเบียน  เพราะชายหาดที่นี่เป็นสีทองอร่าม  น้ำทะเลเป็นสีฟ้าคริสตัล  มีหุบเขาที่เงียบสงบ  ภูเขาสูงใหญ่จึงทำให้ที่เหมาะแก่กันมาฮันนีมูนมากค่ะ
9เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก  ประเทศรัสเซีย  ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมและศิลปะ  และงานสถาปัตยกรรมก็จัดว่าเป็นอันดับหนึ่งในยุโรปเลยก็ว่าได้  ผู้คนที่นี่สุภาพและเก่งๆกันทั้งนั้น  และคนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในเมืองอันเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมจึงถือว่าเป็นพวกชาวรัสเซียที่มีความรู้ดี  ที่นี่มีโรงละครขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่น  โรงละครมาริรินสกาย   มาลี Gorky และโรงละครสำหรับแสดงดนตรี   มีพิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและสเตทรัสเซียซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวาดภาพของรัสเซีย   สถานที่น่าสนใจอื่นเช่น  Alexander Column ตรงกลางของ Palace Square  อนุสาวรีย์ Bronze Horseman เพื่อรำลึกถึงปีเตอร์เกรท  ปราสาทเซนต์ไมเคิล   วิหาร Yusupov   ป้อมปราการปีเตอร์แอนด์พอล    เกาะVasilevsky    Nevsky Propect  และ Pushkin Flat-Museum  
10อัมสเตอร์ดัม  ประเทศฮอล์แลนด์   เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์เพราะมีการสะสมศิลปะเก่าแก่มากมาย มีทั้งสีสันต่างๆ  ดอกทิวลิป  กังหันลมและจักรยาน เมืองนี้มีอายุราว 700 ปีแล้ว  มีแม่น้ำสายเก่าแก่  บ้านขุนนางโบราณและบรรยากาศแห่งความเสรีภาพและความอดทนทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่พิเศษ   ความโรแมนติกของเมืองนี้อยู่ที่บ้านเรือนที่เก่าแก่  คลองที่พาดผ่านศูนย์เช่นถนนสายต่างๆ  เรือนแพ  กังหันลม  จักรยาน  ตึกอาคาร โบสถ์และเสียงระฆังที่ดังราวกับเสียงดนตรี  นอกจากนี้ยังมีภัตคารอาหารจีนและอินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงและเป็นย่านสีแดงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย